The Ultimate Guide To ร้านขายผมจริง

มองย้อนกลับไปสมัยที่เราเล่นดนตรี เราก็เล่นกับกีตาร์พัง ๆ โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่ามีปัญหา ไปเล่นประกวดแล้ววงตกรอบตลอด เราก็ไม่รู้สึกอะไร หรือไปทำเพลงยื่นค่ายไม่มีใครสนใจ เราก็สนุก มันคือความสุข 

ไล่ทำสิ่งที่ตั้งใจ ไปบวช เพราะตอนแรกกะว่ารอให้หมดภาระ มีเงินเก็บ ดูแลทุกอย่างได้ แต่ตอนนั้นก็คือ ไม่ ต้องไปบวชเลย (หัวเราะ) 

“พอเรียนภาษาไทย ก็เริ่มมีเพื่อนมากขึ้น ทำให้ชีวิตเริ่มลงตัว” เธอเล่าพร้อมรอยยิ้ม

แนะนำให้ลองลูคลินิกปลูกผมในกรุงเทพดูบ้างก็ได้

ใช่แล้ว กระบวนการทำหนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นช่วงวิกฤตโรคระบาด เธอและผู้ออกแบบหนังสือของสำนักพิมพ์เกาหลี จึงพบปะ ปรับแก้ และทำทุกกระบวนการผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น

แต่เพราะความจำเป็นนะ เหมือนเราเรียนรู้ตอนไปอยู่เมืองนอกว่า เมื่อใดที่คุณบอกว่าคุณเปลี่ยนหม้อน้ำรถไม่เป็น แต่คุณต้องเปลี่ยนให้ได้ คุณก็จะเปลี่ยนได้ มาวันที่เราเป็นศิลปิน ตอนแรก ๆ เขียนออกมาก็ยังห่วยอยู่ แต่วันหนึ่งที่คุณบอกว่า คุณจำเป็นต้องเขียนให้ได้ ไม่งั้นคุณก็ต้องเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น เพราะในสถานการณ์ของผมคือ ร้องเพลงก็ไม่ได้ดี หน้าตาก็ไม่ได้ดี หรือเป็นมือกีตาร์ก็อาจจะรอดอยู่นะ (เปรี้ยง!

คนที่ยังถือไว้ก็รู้นะว่าเจ็บปวด แต่ยิ่งเจ็บปวด ยิ่งต้องเรียนรู้ว่า มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะกอดรัดสิ่งเหล่านั้นไว้อีกต่อไป 

ไหน ๆ ก็เริ่มพูดถึงร้านเครื่องเขียนในไทยแล้ว เราจึงขอถามประเด็นที่สงสัยมากที่สุดเลยแล้วกัน

ทุกอย่างคือความสุขความเศร้าที่รวมกันเป็นก้อนเดียว โดยที่เราทำอะไรมันไม่ได้ ปฏิเสธไม่ได้ ได้แต่ยอมรับว่ามันเป็นอย่างนี้แหละ 

ตอนเป็นเด็กหญิงคิดว่าถ้ามีพลังวิเศษไม่ได้ก็ขอเขียน ถ้าเขียนไม่ได้ก็ขอร้องเพลง ปัจจุบันเป็นนางสาวนักฝึกฝนตนเองให้ไวต่อความจริงใจ เพราะดันไปแอบชอบพลังวิเศษชนิดนี้ในตัวคน

เวลาผมทำสิ่งต่าง ๆ มากมายในชีวิต กับคนอื่นร้อยแปดพันเก้า พยายามทุ่มเททำนู่นทำนี่ให้ออกมาอย่างที่มันควรจะเป็น กับคนอื่นเราบอกไม่เป็นไร อย่าคิดมาก แต่กับตัวเองมันไม่ค่อยมีโมเมนต์แบบนั้น 

สาว ร้านขายผมจริง ๆ คนอื่นอาจชอบช้อปปิ้งเสื้อผ้า แต่ฮั่นชอบช้อปปิ้งเครื่องเขียนมากกว่าเป็นไหน ๆ 

หลายคนไม่ทราบว่าคุณเรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาจิตวิทยา บอกหน่อยว่าเป็นมายังไง

ความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นยังไงบ้าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *